
- บริการรับทำวีซ่า ขอVISA
รับทำวีซ่า อังกฤษ
รับทำวีซ่า อเมริกา
รับทำวีซ่า ออสเตรเลีย
รับทำวีซ่า ฝรั่งเศส
รับทำวีซ่า แคนาดา
รับทำวีซ่า นิวซีแลนด์
รับทำวีซ่า ไอร์แลนด์
รับทำวีซ่า สเปน
รับทำวีซ่า เซ็ก
รับทำวีซ่า เซงเก้น
รับทำวีซ่า เยอรมัน
รับทำวีซ่า อิตาลี
รับทำวีซ่า สวีเดน
รับทำวีซ่า เบลเยี่ยม
รับทำวีซ่า เดนมาร์ก
รับทำวีซ่า นอร์เวย์
รับทำวีซ่า ฟินแลนด์
รับทำวีซ่า เนเธอแลนด์
รับทำวีซ่า ฮังการี
รับทำวีซ่า อินเดีย
รับทำวีซ่า ญี่ปุ่น
รับทำวีซ่า จีน
รับทำวีซ่า เวียดนาม
รับทำวีซ่า พม่า
รับทำวีซ่า เกาหลี
- รับจดทะเบียนสมรส
- รับแปลเอกสาร
- บริการอื่น
- ข่าวสาร
- เกี่ยวกับเรา
- แผนที่
- ติดต่อเรา
เราเป็นบริษัทรับทำวีซ่าอเมริกา ซึ่งมีประสบการณ์ดูแลงานให้กับลูกค้าในหลากหลายเคสยาวนานกว่า 15 ปี วันนี้เราจะมาแนะนำการ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา หรือเพื่อเดินทางไปประชุมธุรกิจ หรือที่พูดกันติดปากว่าวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา ประเภท B-1 / B-2 ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทวีซ่าที่คนไทยนิยมสมัครกันมากที่สุด ว่าจะทำอย่างไรให้วีซ่ามีโอกาสผ่านมากที่สุด
ซึ่งเราจะเห็นได้จากตอนเช้าๆ หน้าสถานทูตจะมีทั้งผู้สมัครเองรอคิวยาวเพื่อเข้าสัมภาษณ์วีซ่า และกองเชียร์ของผู้สมัครที่มายืนรอคอยเพื่อให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม
คนไทยจำนวนมากใช้วีซ่าประเภทนี้เป็นก้าวแรกในการเดินทางท่องเที่ยว หาที่เรียนต่อ และเพื่อแสวงหาโอกาสอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา
การเดินทางเป็นความฝันสำหรับพวกเราหลายคน (รวมถึงผู้เขียนเองด้วย) ที่จะได้ออกไปผจญภัยในสถานที่ใหม่ๆ และดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมอันกว้างใหญ่ และความมหัศจรรย์ที่ในต่างประเทศ
สำหรับคนไทยนั้น การเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกาไม่ใช่แค่เรื่องการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น แต่มันหมายถึงการทำตามความฝันและเติมเต็มความปรารถนาในชีวิตที่จะได้เห็นมุมมองใหม่ของโลก
แต่ก่อนที่จะออกเดินทางหรือบุ๊คตั๋วนั้น คุณจะต้องสมัครและผ่านการสัมภาษณ์ วีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา และ/หรือ วีซ่าธุรกิจก่อน
ไม่ว่าคุณจะต้องการทำวีซ่าเพื่อท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา หรือวีซ่าธุรกิจสหรัฐอเมริกาก็ตามนั้น เราเป็นบริษัทรับทำวีซ่าอเมริกา เพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อเดินทางไปประชุมธุรกิจที่สามารถให้บริการแก่คุณได้ทั้งหมดทุกขั้นตอน และรวมถึงการจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นรวมทั้งกระบวนการอื่น ๆ สำหรับคุณอีกด้วย
ที่ปรึกษาด้านวีซ่าของเราจะจัดเตรียมเอกสารทั้งหมด รวมทั้งการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสัมภาษณ์ที่สถานทูตด้วย
เรามั่นใจว่า เราจะสามารถให้บริการทั้งหมดแก่คุณได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยาก
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเดินทางไปประเทศอื่น คุณอาจอ่านบทความอันนี้ประกอบด้วยนะ : รับทำวีซ่า
หรือหากคุณได้ทำวีซ่าเองไปแล้ว แต่อยากหาคนช่วยแปลเอกสารเท่านั้น คุณสามารถดูข้อมูลได้จากบทความอันนี้นะ : รับแปลเอกสาร
“โปรดอย่าลังเลที่จะใช้เราเป็นข้อมูลอ้างอิง เพื่อให้ผู้สนใจสำหรับบริการการแต่งงานหรือการขอวีซ่า คุณสามารถนำชื่อและที่อยู่อีเมลของผมไปเพื่อประชาสัมพันธ์ได้ ผมยินดีที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีและมีคุณค่าที่เราได้รับจากบริษัทของคุณให้กับผู้ที่สนใจอย่างแน่นอน”
1. ทำความเข้าใจก่อนเริ่ม ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
การ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา นั้น เป็นวีซ่าประเภทหนึ่งที่คนไทยนิยมใช้ในการเดินทางมาประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
โดยหลักแล้ว วีซ่าประเภทนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทย่อยอีกคือ
- B-1 เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและ
- B-2 เพื่อการท่องเที่ยว
โดยการ ทำวีซ่าอเมริกา ประเภทนี้เพื่อเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกานั้น ค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับคนไทย เนื่องจากขอวีซ่าประเภทนี้จะใช้เวลาดำเนินการไม่นาน และมีค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไม่สูงมาก
โดยปกติแล้วขั้นตอนการ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา นั้นตรงไปตรงมา แต่บางครั้งคุณอาจจำเป็นจะต้องมีมืออาชีพดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการที่ยุ่งยากและน่าเบื่อ อาทิเช่น การทำใบสมัครซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ หรือการแปลเอกสารเป็นต้น
โดยปกติแล้วผู้สมัครหากสัมภาษณ์วีซ่าผ่านแล้ว ก็จะได้รับวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 10 ปี แต่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการพิจารณาของเจ้าหน้าที่สถานทูตด้วย โดยบางรายอาจได้รับระยะเวลาของวีซ่าเพียงแค่ตามความจำเป็นในการเดินทางเท่านั้น
ประเภทของวีซ่าที่จะได้รับคือ B-1/B-2 ซึ่งมีอายุ 10 ปี แต่สามารถอยู่อเมริกาได้นานเพียง 6 เดือน เมื่อเดินทางเข้าอเมริกาในแต่ละครั้ง
นี่คือวีซ่าที่เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาการท่องเที่ยวและผู้ที่มีธุรกิจในสหรัฐอเมริกา
หากวัตถุประสงค์ของการเดินทางที่วางแผนไว้นั้นเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่นเพื่อปรึกษากับผู้ร่วมธุรกิจ เข้าร่วมการประชุมทางวิทยาศาสตร์ ธุรกิจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือการเจรจาต่อรองทางธุรกิจต่างๆ วีซ่าB-1 จะเป็นวีซ่าประเภทที่เหมาะสมสำหรับการเลือกทำ
แต่ถ้าวัตถุประสงค์ของการเดินทางตามแผนคือการพักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติ เยี่ยมสถาปัตยกรรมและอารยะธรรมของอเมริกา รวมถึงการท่องเที่ยวเยี่ยมเพื่อนหรือญาติ หรือเกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล วีซ่านักท่องเที่ยว (B-2) จะเป็นวีซ่าประเภทที่เหมาะสมสำหรับการเลือกทำ
วีซ่าท่องเที่ยว B-2 นั้น จะอนุญาตให้บุคคลเข้าสหรัฐอเมริกาในเวลาอันสั้นเพื่อความเพลิดเพลิน
ผู้สมัครวีซ่า B1/B-2 จะต้องมีหน้าที่จะต้องแสดงให้สถานทูตเห็นว่า ตนจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อระยะเวลาของวีซ่าสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งภาระการพิสูจน์ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้สมัครวีซ่านะ
ผู้ที่ได้รับวีซ่า B-2 จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
ตอนกรอกฟอร์มทำวีซ่า DS-160 ผู้สมัครจะต้องเลือกให้ถูกต้องเสียก่อนว่าตนต้องการเข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร หากเลือกผิดก็อาจจะถูกปฎิเสธเมื่อถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์วีซ่าได้
2. การ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา สำหรับคนไทย
ตามที่ แผนกกงสุล กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ – กรมการกงสุล , กำหนดไว้ว่า พลเมืองของต่างประเทศที่ประสงค์จะเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาต้องได้รับวีซ่า
อาจเป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับการอยู่ชั่วคราวหรือ
วีซ่าถาวรสำหรับผู้ต้องการอยู่อาศัยถาวร
วีซ่านักท่องเที่ยวอเมริกาเป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาชั่วคราวภายใต้ประเภทวีซ่าดังต่อไปนี้:
- สำหรับธุรกิจ (ประเภทวีซ่า B-1)
- เพื่อการท่องเที่ยว (ประเภทวีซ่า B-2)
- สำหรับการรวมกันของวัตถุประสงค์ทั้งสอง (B-1 / B-2) โดยปกติเวลาให้วีซ่าก็จะระบุมาแบบนี้เลย โดยสามารถดูตัวอย่างได้จากภาพด้านล่าง
3. คุณสมบัติของคนที่จะ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
สถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะค่อนข้างเข้มงวดกับการให้วีซ่าในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อการท่องเที่ยวของคนไทย
เนื่องมาจากคนไทยหลายคนพอไปแล้ว ก็ไปแอบโดดพักอาศัยและทำงานที่นั้นอย่างไม่ถูกกฎหมาย
โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับวีซ่านั้น คุณอาจลองอ่านความเห็นของเจ้าหน้าที่ของเราได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้
“ สิ่งสำคัญอันดับแรกเมื่อขอวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาในประเทศไทยคือ คุณควรมีงานทำ คุณจะต้องสามารถแสดงถึงสถานะการจ้างที่ถูกต้องแท้จริงและมั่นคงได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณไปเที่ยวหรือไปทำธุระแล้วคุณจะกลับมาประเทศไทย
นอกจากนี้ประวัติการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เมื่อสมัครวีซ่าประเภทนี้หากคุณเดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกและคุณเลือกที่จะสมัครขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา โอกาสในการถูกปฎิเสธวีซ่าของคุณนั้นจะค่อนข้างสูง ผู้สมัครหลายคนมั่นใจเกินไปว่าตนมีเงินในบัญชีเยอะ ตนจะได้รับวีซ่าแน่นอน แต่สุดท้ายก็โทรหาเราเมื่อถูกปฏิเสธแล้ว”
ตามประสบการณ์ที่ทำงานด้านนี้มา 15 ปีแล้ว คนไทยที่สามารถขอวีซ่าประเภทนี้เพื่อเข้าอเมริกาได้ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
เขาหรือเธอมีเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาและการพักอาศัย และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว (อย่าลืมว่าค่าครองชีพที่อเมริกาสูงกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว)
เขาหรือเธอมีแผนการท่องเที่ยวและการเงินที่สอดคล้องตามความจริงตลอดระยะเวลาที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว
ระยะเวลาที่คาดการณ์ไว้สำหรับการท่องเที่ยว สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง
เขาหรือเธอมีหน้าที่การงาน โดยเฉพาะงานประจำทำในประเทศไทยมาแล้วต่อเนื่อง ยาวนานพอสมควร
การมีแฟนเป็นคนอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ที่อเมริกา มีโอกาสถูกปฎิเสธวีซ่ามากกว่า90%
การระบุว่าจะไปกับทัวร์นั้น ไม่สามารถช่วยให้การพิจารณาใบสมัครของผู้สมัครดีขึ้นแต่อย่างใด (ช่วงหลังๆ หากระบุว่าไปกับทัวร์ ก็อาจจะโดนเพ็งเล็งตอนสัมภาษณ์ได้)
4. สิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อได้รับวีซ่าเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่อเมริกาเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและกฎหมายอื่นๆ รวมทั้งระเบียบทั้งหมดที่กำหนดโดยหน่วยงานทั้งหลายแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา คุณจะทำผิดกฎหมายโดยอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
เมื่อคุณได้รับวีซ่าแล้ว ทางสถานทูตจะมีกระดาษมาให้ และจะระบุสิ่งที่คุณสามารถทำได้และไม่สามารถทำได้ไว้ด้วย โดยคุณมีหน้าที่ที่จะต้องอ่านให้เข้าใจนะ
สำหรับวีซ่าธุรกิจ B-1 หรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจผู้ถือวีซ่าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสหรัฐอเมริกา ทำได้เพียงแค่ไปประชุม หรือเดินทางไปสัมมนาทางธุรกิจเท่านั้น
ผู้ได้รับวีซ่าธุรกิจ B-1 จะต้องเดินทางกลับมาเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต
การยื่นขอวีซ่า B-1 สามารถทำได้โดยตรงที่สถานกงสุลหรือสถานทูตสหรัฐฯ
5. วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา อยู่ได้กี่เดือน
โดยปกติแล้วเมื่อวีซ่าผ่านเราจะได้รับหน้าวีซ่าที่เป็นสติ๊กเกอร์เปะลงบนพาสปอร์ตของเรา โดยมีอายุ 10 ปี แต่เมื่อเราเดินทางเราประเทศอเมริกา ทางเจ้าหน้าที่ ตม. จะปั๊มวีซ่าให้เราอยู่ได้เพียงแค่ 6 เดือน
นั้นหมายความว่า เราจะต้องออกจากประเทศเค้าภายใน 6 เดือนนะ เพราะบางคนเข้าใจว่าเค้าให้อยู่ได้ 10 ปี ก็เลยอยู่ทำงานซะยาวเลย
หรือบางครั้ง เจ้าหน้าที่ตม. อาจจะปั๊มวีซ่าให้เราน้อยกว่า 6 เดือนก็ได้
อย่างไรก็ตามการเดินทางเข้า-ออก บ่อยๆ อาจก่อให้เกิดข้อสันนิษฐานว่าผู้ได้รับวีซ่าอาจแอบเข้าไปทำงาน หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่อนุญาต จนบางครั้งวีซ่าที่ได้รับมาแล้วก็อาจถูกเพิกถอนได้
6. เอกสารที่จำเป็นสำหรับการ ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
เอกสารปกติที่คุณต้องใช้ในการยื่นทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาหรือ B-1/B-2 สำหรับคนไทยนั้น จะมีดังต่อไปนี้:
หนังสือเดินทาง (มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป)
สเตทเม้นท์ธนาคาร (ย้อนหลัง 6 เดือน)
รูปถ่ายวีซ่า (2 ชุด)
เอกสารสินทรัพย์ (ถ้ามี)
เอกสารทางส่วนบุคคล
เอกสารเปลี่ยนชื่อและนามสกุล (ถ้ามี)
บัตรประชาชนไทย
ทะเบียนบ้าน
หลักฐานการทำงานหรือการเป็นเจ้าของธุรกิจ
หากผู้สมัครมีสปอนเซอร์
นี่คือเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมทางฝั่งสปอนเซอร์:
สำเนาหนังสือเดินทางพร้อมลายเซ็นต์ของสปอนเซอร์
หนังสือรับรองจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ที่สปอนเซอร์มีเงินฝาก โดยระบุรายละเอียดดังต่อไปนี้เกี่ยวกับบัญชีของสปอนเซอร์:
วันที่เปิดบัญชี;
จำนวนเงินฝากทั้งหมดสำหรับปีที่ผ่านมา;
ยอดเงินปัจจุบัน
หนังสือรับรองจากนายจ้างของสปอนเซอร์ โดยมีการระบุข้อมูลของผู้สปอนเซอร์ดังนี้:
วันที่และลักษณะของการจ้างงาน
เงินเดือนที่จ่าย;
ระบุว่าเป็นการจ้างงานแบบ Full time หรือ Part time
ทั้งนี้ ให้พึงระลึกว่า สุดท้ายแล้วทางสถานทูตจะพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นหลัก แม้ว่าคุณจะมีสปอนเซอร์ที่ร่ำรวยเพียงใดก็ตาม
รายการเอกสารอย่างอื่นที่อาจจำเป็นต้องใช้ประกอบการทำใบสมัคร:
หนังสือชี้แจ้งหรือจดหมายเชิญที่มีการระบุถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปอเมริกา
รายละเอียดความตั้งใจของคุณที่จะเดินทางกลับออกมาจากสหรัฐอเมริกาหลังจากการเดินทาง
ความสามารถในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการเดินทาง รวมทั้งค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
หลักฐานการจ้างงาน และ/หรือความผูกพันในครอบครัวของคุณ ที่จะแสดงให้ทางสถานทูตเห็นว่าคุณมีความตั้งใจที่จะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากที่สิ้นสุดการท่องเที่ยวหรือทำธุระแล้ว นอกจากนี้หากตัวคุณเองไม่สามารถแสดงจำนวนเงินที่คุณมีให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการเดินทางของคุณ คุณอาจแสดงหลักฐานว่าบุคคลอื่นหรือว่าใครจะช่วยคุณออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย
7. ปัญหาที่พบเจอ
การเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการนั่งรถไฟ BTS หรือรถไฟใต้ดิน MRT ไปยังที่ที่คุณต้องการไปหรือจองรถ GRAB หรือ UBER
นอกจากนี้ยังไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นการจองตั๋วเครื่องบินและบินไปยังสหรัฐอเมริกา โดยก่อนอื่นใดนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือการได้รับการอนุมัติหรือผ่านการอนุมัติเพื่อไปที่สหรัฐอเมริกา
นี่คืออัตราการปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาสำหรับคนไทย
สิ่งแรกที่คุณต้องทำหากคุณต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุระที่สหรัฐอเมริกาคือการสมัครวีซ่าให้ถูกกับประเภท และถูกวัตถุประสงค์ของการเดินทาง และต้องกรอกใบสมัครให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงตามข้อมูลของคุณด้วย
การทำวีซ่าประเภทนี้นั้นดูเหมือนจะง่ายสำหรับการทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา แต่บ่อยครั้งก็มีปัญหามากมายที่ผู้สมัครต้องเผชิญ จนนำไปสู่การถูกปฎิเสธเมื่อเข้าไปสัมภาษณ์ได้
ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดที่ผู้คนเผชิญคือวีซ่าถูกปฎิเสธ อันเนื่องมาจากไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่แท้จริง จนนำไปสู่การกรอกฟอร์ม DS-160 ผิดพลาด!
ผู้สมัครวีซ่าคนไทยจำนวนมากประสบปัญหานี้ในการปฏิเสธวีซ่าเนื่องจากเหตุผลหลายประการ
โดยเราได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาทั่วไปที่ผู้สมัครชาวไทยเผชิญเมื่อสมัครวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาและถูกปฎิเสธจากสถานทูตหรือเจ้าหน้าที่ผู้สัมภาษณ์วีซ่า โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ของเรา นี่คือคำแนะนำบางประการที่เราฝากไว้ให้พิจารณาก่อนสมัครวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา:
ผู้สมัครทำงานฟรีแลนซ์ และประเภทของงานนั้นไม่มีความมั่นคง
ผู้สมัครเป็นเจ้าของธุรกิจก็จริง แต่ทำธุรกิจโดยไม่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
ผู้สมัครทำงานประจำ แต่เพิ่งเริ่มทำงานที่ใหม่ หรือทำงานในตำแหน่งที่ได้รับรายได้ต่ำ (ในมุมมองสถานทูต)
ผู้สมัครอ้างอิงคนรู้จักหรือสปอนเซอร์ที่อเมริกา แต่คนๆนั้นทำงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สถานทูตมองว่าคุณอาจเดินทางแอบไปทำงานกับเค้าได้
ผู้สมัครมีญาติใกล้ชิดที่โดดวีซ่าอยู่ที่อเมริกา
ผู้สมัครเดินทางไปเที่ยวอเมริกาคนเดียว
ประวัติการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของผู้สมัครในพาสปอร์ตไม่มีเลยหรือมีน้อย
ผู้สมัครมีแฟนเป็นคนสัญชาติอเมริกัน (ควรไปขอวีซ่าถาวรเช่น K1 หรือ CR1 แทนนะ)
บทสรุป
กระบวนการของการทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาสำหรับคนไทยนั้นดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วนั้นมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปฎิเสธ เพราะใบสมัครและผู้สัมภาษณ์วีซ่าจะมีลูกล่อลูกชนให้เราอาจถูกปฎิเสธวีซ่าได้ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมคุณควรได้รับคำปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์และผ่านการทำเคสมาอย่างหลากหลาย
จริงอยู่ว่าการทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาสามารถทำด้วยตัวเองได้ ดังจะเห็นจากรีวิวต่างๆที่แนะนำให้ผู้สมัครทำวีซ่าด้วยตัวเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่เราอยากจะบอกจากใจว่าที่ผู้รีวิวแสดงความเห็นเหล่านั้นได้ ก็เพราะเค้ามีคุณสมบัติครบถ้วนอยู่แล้ว ก็เลยทำให้สามารถทำวีซ่าผ่านได้ง่ายโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
แต่ในความเป็นจริงตลอดระยะเวลาที่เราทำงานมา มีผู้ได้รับการปฎิเสธวีซ่าโทรมาปรึกษามากมาย โดยส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขในภายหลังได้ เพราะผู้ถูกปฎิเสธได้ให้ข้อเท็จจริงไปกับสถานทูตแล้ว จะมากลับลำแจ้งข้อเท็จจริงเป็นอีกอย่างในภายหลังก็ไม่ได้แล้ว จึงเป็นการเสียโอกาสของผู้สมัครที่จะได้เดินทางไปท่องเที่ยวอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้น คุณควรมีผู้ให้คำปรึกษาก่อนยื่นใบสมัครจะเป็นการดีที่สุด เพื่อให้การทำวีซ่าของคุณตั้งแต่ครั้งแรกเป็นไปอย่างถูกต้อง
ความช่วยเหลือด้านรับทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาของเรานั้น เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือลูกค้าในการขอวีซ่า โดยเราจะช่วยเหลือคุณในเรื่องต่อไปนี้:
ประเมินรายละเอียดของผู้สมัครก่อนเริ่มบริการ
ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริการที่เราจะจัดทำให้ รวมถึงแพ็คเกจและค่าบริการของเรา
เราเข้าใจว่าลูกค้าชาวไทยของเราบางคนไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษดังนั้นเราจะจัดการทุกขั้นตอนการสมัครรวมถึงการแปล การกรอกใบสมัคร การเตรียมเอกสาร และการฝึกฝนการสัมภาษณ์
พนักงานของเรามีความรู้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย เรามั่นใจว่าเราสามารถช่วยเหลือคุณได้ดีโดยไม่มีอุปสรรคด้านภาษา
เรารายงานความคืบหน้าโดยละเอียดในระหว่างการให้บริการ
ติดต่อกับหน่วยงานราชการและสถานทูตในประเทศไทยเพื่อเป็นตัวแทนลูกค้าของเรา
ซักซ้อมการสัมภาษณ์ (เราอัพเดตคำถามจากลูกค้าที่เข้าสัมภาษณ์ทุกวัน)
รับประกันผลลัพธ์สำหรับการยื่นทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
เรารู้ว่าวีซ่าประเภทนี้สำคัญสำหรับลูกค้าของเราอย่างไร
นั่นเป็นเหตุผลที่เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านวีซ่าและผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลการสมัครวีซ่าสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างดีที่สุด
ทีมงานของเราช่วยเหลือลูกค้าในทุกขั้นตอนของการยื่นขอวีซ่า
เรารู้ว่าการทำวีซ่าสหรัฐอเมริกามีซับซ้อนเพียงใด นั่นคือสาเหตุที่เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามีทีมที่ดีที่สุดที่พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเรา
- บริการรับทำวีซ่า ขอVISA
รับทำวีซ่า อังกฤษ
รับทำวีซ่า อเมริกา
รับทำวีซ่า ออสเตรเลีย
รับทำวีซ่า ฝรั่งเศส
รับทำวีซ่า แคนาดา
รับทำวีซ่า นิวซีแลนด์
รับทำวีซ่า ไอร์แลนด์
รับทำวีซ่า สเปน
รับทำวีซ่า เซ็ก
รับทำวีซ่า เซงเก้น
รับทำวีซ่า เยอรมัน
รับทำวีซ่า อิตาลี
รับทำวีซ่า สวีเดน
รับทำวีซ่า เบลเยี่ยม
รับทำวีซ่า เดนมาร์ก
รับทำวีซ่า นอร์เวย์
รับทำวีซ่า ฟินแลนด์
รับทำวีซ่า เนเธอแลนด์
รับทำวีซ่า ฮังการี
รับทำวีซ่า อินเดีย
รับทำวีซ่า ญี่ปุ่น
รับทำวีซ่า จีน
รับทำวีซ่า เวียดนาม
รับทำวีซ่า พม่า
รับทำวีซ่า เกาหลี
- รับจดทะเบียนสมรส
- รับแปลเอกสาร
- บริการอื่น
- ข่าวสาร
- เกี่ยวกับเรา
- แผนที่
- ติดต่อเรา





ระยะเวลาในการขอวีซ่า

ระยะเวลาในการขอวีซ่า ในแต่ล่ะ
ประเทศจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่
จะใช้เวลาประมาณ 30 วันหรือน้อยกว่า
โดยแบ่งลักษณะวีซ่าเป็น 3 ประเภท
วีซ่าชั่วคราว
วีซ่าถาวร
วีซ่าปี
รับแปลเอกสาร แปลภาษา

ศูนย์แปลเอกสาร Candovisa มีการพัฒนาระบบการตรวจสอบคุณภาพของงาน ตั้งแต่รับงานตลอดจนตรวจงานขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่างานแปลเอกสารที่ เราส่งมอบกลับคืนไปให้ลูกค้ามีความถูกต้อง แม่นยำตรงกับต้นฉบับมากที่สุด บริการแปลเอกสาร One Call Service เป็นขั้นตอนง่าย สำหรับลูกค้าทุกที่ทั่วไทย ทั่วโลก ทุกอย่างเสร็จได้ ไม่ต้องออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว
คำถามที่มักจะถามกันบ่อยๆ
